สมบุญ ลีเส็ง หรือชาตรี ศรีชล เกิดเมื่อ 9เมษายน 2492 เป็นบุตรนายเผือก นางสอน ลีเส็ง มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 10 บ้านนากระรอก ต.ทุ่งขวาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จบการศึกษาสูงสุดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6จากโรงเรียนชลราษฎร์อำรุง ก้าวเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งด้วยการไปสมัครร้องเพลงกับวง "รวมดาวกระจาย"ของครูสำเนียง ม่วงทองในยุคแรกบ้างก็ว่าการที่เขาชอบกัญชา ก็เลยตั้งชื่อให้ตัวเองว่าชาตรี อย่างเป็นงานเป็นการไปเสียเลย เมื่อสุรพล สมบัติเจริญเสียชีวิตไปเมื่อปี 2511 และนักร้องทีมงานเก่าๆ แยกตัวไปตั้งวงศิษย์สุรพลกันหมดแล้ว ศรีนวล สมบัติเจริญ ภรรยาของครูสุรพล ก็ได้ตั้งวงดนตรีใหม่ตามที่แฟนเพลงเรียกร้อง ทั้งๆ ที่ ก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องการร้องรำทำเพลงมากนัก จึงได้ประกาศรับสมัครนักร้อง ซึ่งก็มีนักร้องมาสมัครกับวงนี้มากมาย ทั้งชาตรี ศรีชล และโรม ศรีธรรมราช ที่นี่ ชาตรี ศรีชลแต่งเพลงและช่วยเคาะจังหวะการร้องเพลงให้สีนวลในช่วงแรกๆคือเพลง "รักหน่อยนะ" จนสีนวลมีชื่อเสียง
การที่วงไม่มีนักร้องดังนี่เองที่เป็นช่องว่างให้ชาตรี ศรีชล ได้แจ้งเกิด ข้อมูลส่วนหนึ่งบอกว่า ในปี 2512 เขาได้ ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกคือเพลงบัวหลวง (ซึ่งแต่งไว้ก่อนเข้าวงการ) ชาตรี ศรีชล เก่งทั้งด้านการร้องเพลง และการแต่งเพลง และเพียงสามเพลงแรกร้องเองแต่งเองในยุคหลังเข้าวงการ โดยการสนับสนุนของศรีนวล คือเพลงสมัครรักสมัครแฟน,ช้ำรักจากเมืองชล และทหารห่วงเมีย ชาตรี ศรีชล ก็ดังระเบิด ถึงขนาด ครูไพบูลย์ บุตรขัน ต้องขอดูตัว และผลของการดูตัว ทำให้ชาตรีได้เพลงจากครูไพบูลย์ มาร้องเสริมความดัง นั่นก็คือเพลงเมาเหล้าเมารัก ซึ่งก็เขียนตามแบบครูเพลงมืออาชีพ คือจะเขียนเพลงโดยสกัดวัตถุดิบจากตัวคนร้องนั่นเอง
แต่วงดนตรีวงนี้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องเลิกวงไป ปี 2513 ชาตรี ศรีชลก็เลยตั้งวงดนตรีขึ้นมาใหม่ และต่อมาชาตรี ศรีชล ก็ได้มีโอกาสร้องเพลงทำนองอินเดียด้วย อย่างเพลง ธรณีชีวิต เพลงโฉมนาง ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เข้ามาฉายในไทย ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของชาตรี ดังมากขึ้นไปอีก แต่ขณะที่กำลังดังๆอยู่นั้น ชาตรี ศรีชลก็หายตัวไปจากวงการ โดยในวันที่เกิดเรื่อง วงดนตรีชาตรี ศรีชล ไปเปิดการแสดงอยู่ที่ระยอง วันนั้นก็มีสารวัตรทหารมาดูแลความเรียบร้อยด้วย เมื่อทำการแสดงเสร็จ สารวัตรทหารก็ขึ้นรถมาด้วย ทุกคนคิดว่าสารวัตรทหารจะขอกลับด้วย ก็เลยมาส่งถึงฐานทัพเรือสัตหีบ แต่พอถึง ปรากฏว่าสารวัตรทหารขอเชิญชาตรี ศรีชล ลงจากรถ พร้อมแจ้งข้อหาว่า ชาตรี ศรีชล หนีทหาร ทำให้ต้องติดคุกคุกอยู่ 1 ปี 3 เดือน คนในวงดนตรีร้องไห้กันระงม เพราะขาดหัวเรือใหญ่ งานต่างๆ ที่รับไว้เป็นปีๆ ก็ต้องหยุดไปโดยปริยาย งานนี้เจ้าตัวบอกว่าโดนพวกไม่หวังดีกลั่นแกล้ง
จากความกลัดกลุ้มในคุกนี่เองที่ทำให้เขาหันเข้าหาความเมาทั้งชนิดน้ำ ชนิดควัน ชนิดดูด และฉีด ออกจากคุกมาตั้งวงดนตรีอีกครั้ง และเกิดอีกทีด้วยเพลง "ไปเอาเหล้ามา" จากงานประพันธ์ของตัวเอง แต่ยังไม่วายโดนแกล้ง ปล่อยข่าวนาๆจนเจ้าภาพขยาดไม่กล้าจ้างไปแสดง ชาตรีเลยยิ่งเครียดและเมาหนักกว่าเดิม หลังเลิกวงแล้วก็ร้องเพลงตามห้องอาหารและรับเชิญเป็นบางโอกาส และในที่สุดก็ต้องเดินเข้าออกโรงพยาบาลและจบชีวิตไปเพราะยาเสพติดไปเมื่อ16 พฤษภาคม 2532 ที่โรงพยาบาลชลบุรีรวมอายุได้ 40 ปี
ชาตรี ศรีชล ชอบคำรณ สัมบุณณานนท์ เขามีร่องเสียงที่เดินมาตามรอยของคำรณ และเคยนำเพลงของครูคำรณมาร้องหลายเพลงเช่น ชายสามโบสถ์ ,บ้านนาป่าร้าง เพลงที่เขาแต่งเองหลายเพลงก็มีเค้าแบบเพลงของคำรณ เช่นซมซาน ,หลังคาแดง และชาตรี ศรีชล ก็มาตายเสียตั้งแต่อายุยังน้อยจากผลของยาเสพติดแบบเดียวกับครูคำรณเสียด้วยในวงการลูกทุ่ง ต้องนับว่าชาตรี ศรีชล เป็นนักเพลงจอมเมาตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่ง เจ้าตัวยอมรับว่า เวลาไม่เมามักเขียนเพลงไม่ได้เรื่อง เขาบอกว่าเพลงดังๆที่ออกมาจากฤทธิ์กัญชาก็อย่างเช่น ทหารห่วงเมีย,หลังคาแดง, สมัครรักสมัครแฟน, ซมซาน
ส่วนในยุคที่เขาหยุดเหล้าและยาเสพติด ปรากฏว่าผลงานไม่เป็นที่ประทับใจแฟนเพลงเอาเสียเลย เพลงที่ชาตรี ศรีชลประพันธ์ไว้มีอยู่ราว 200 เพลง โดยเพลงที่ยังไม่เคยบันทึกเสียงมีราว 100 เพลง
ตอนแต่งเพลงสาวผักไห่ ชาตรี ศรีชล เมาหนักกว่าปกติ เพราะเมาผงขาวผสมเมาเหล้า เขาเล่าไว้ว่าบ่ายวันหนึ่ง ราวปี 2517ช่วงนั้นเขานิยมฉีดผงเข้าเส้นเป็นประจำ พอเมาผงได้ที่ ตอนบ่ายว่างๆ ก็มานั่งกินเหล้าต่อที่ร้านปากซอยบุปผาสวรรค์กับทม นทีทอง นักร้องอีกคนหนึ่ง พอเมาได้ที่อารมณ์เพลงก็มาเอง 20 นาทีต่อมา เพลงสาวผักไห่ ที่ออกมาจากสมองเมาๆของเขาก็เรียบร้อยแม้ว่าเขาจะไม่เคยไปที่ผักไห่แต่อย่างใด โดยเคยเห็นผักไห่แต่บนป้ายทางหลวงเท่านั้นเอง จากนั้นเขาบอกขายเพลงนี้ให้กับ ทม นทีทอง ในราคา 100 บาท เพื่อหาค่าเหล้า แต่ทมไม่ซื้อเพราะเห็นว่ายังเมาๆ อยู่ ชาตรีโกรธ จึงพับกระดาษเพลงใส่กระเป๋า ต่อมามนต์ เมืองเหนือ ชวนชาตรี ศรีชล มาอัดเพลงใหม่ และเพลงนี้ จากการทำดนตรีของพีระ ตรีบุปผา ก็ทำให้ชาตรี ศรีชล กลับมาดังอีกครั้ง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5_%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%A5

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น